Velvet หรือ coral fish disease
สาเหตุเกิดจากโปรโตซัวชนิด dinoflagellate คือ Amyloodinium ocellatum โดยวงชีวิตประกอบด้วยสามระยะ คือ 1) ระยะ trophont 2) ระยะ tomont หรือ ระยะการเข้า cyst และ 3) ระยะ dinospore โดยระยะ trophont จะพบบริเวณผิวหนังของโฮสต์โดยตัวเชื้อจะดูดกินสารอาหาร สืบพันธุ์ ซึ่งระยะนี้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ต่อมาเมื่อมีการสร้าง cyst บนตัวโฮสต์และแตกออกกลายเป็นระยะ dinospore ซึ่งเป็นระยะที่เคลื่อนที่ได้และหาโฮสต์ใหม่
ปลาที่ติดเชื้อจะพบว่ามีลักษณะคล้ายเกล็ดน้ำตาลสีขาวอยู่บนผิวหนัง เนื่องด้วยขนาดที่เล็ก คือประมาณ 50-60 ไมครอน ทำให้พบว่าบริเวณที่ติดเชื้อมักจะขุ่น ถ้าติดเชื้อรุนแรง พบว่าปลาจะสร้างเมือกออกมาจำนวนมากและก็จะสลัดเมือกเหล่านั้นทิ้งไป เช่นเดียวกับการติดเชื้อปรสิตชนิดอื่น ๆ
สามารถติดเชื้อในเหงือก ทำให้ปลาหายใจเร็ว หากติดเชื้อบนผิวหนัง ปลาแสดงอาการว่ายแฉลบ หรือถูตัวกับสิ่งตกแต่งตู้
การรักษา
เช่นเดียวกับการรักษา Cryptocaryon irritans ที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
มีรายงานว่า dinospore มีชีวิตอยู่ได้นานถึงสามถึงสี่สัปดาห์ ดังนั้น จึงควรรักษาปลาต่อเนื่องหลังจากปลาแสดงอาการติดเชื้อไปอย่างน้อย 10 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
ส่วน Hyposalinity method เป็นวิธีที่แนะนำ โดยลดความเค็มลงอย่างรวดเร็วให้เหลือ 1.010 ถึง 1.013 เมื่อครบระยะเวลารักษาให้ค่อย ๆ ปรับความเค็มขึ้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากหากปรับขึ้นเร็วอาจเกิดอาการ osmotic shock ตามมาได้ โดยแนะนำให้ปรับขึ้นห้ามเกิด 0.002 ภายใน 24 ชั่วโมง
Clownfish disease
เกิดจากเชื้อโปรโตซัวชนิด ciliate (ciliate protozoa) คือ Brooklynella hostilis มักพบได้บ่อยในปลาการ์ตูน ทำให้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Clownfish disease ซึ่งค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากสามารถแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็ว ปลาที่มักพบการติดเชื้อ พบว่า เกิดจากการเลี้ยงที่หนาแน่นเกินไป หรือคุณภาพน้ำไม่เหมาะสม หรือทั้งสองปัจจัยร่วมกัน
วงจรชีวิตของเชื้อนี้ไม่ได้ระบุชัดเจนเหมือนเชื้อก่อนหน้านี้ ทั้งสองชนิดแต่ปรสิตแบ่งตัวบนโฮสต์และสืบพันธุ์ และติดต่อไปยังโฮสต์ตัวอื่นต่อไป เชื้อสามารถแบ่งตัวได้รวดเร็วกว่าเชื้อก่อนหน้าที่ได้กล่าวไป ดังนั้นจึงทำให้เกิดอาการที่รวดเร็วกว่า
เชื้อจะอาศัยบนผิวหนังและดูดกินเซลล์เม็ดเลืองแดง ทำความเสียหายรุนแรงต่อบริเวณที่อาศัยบริเวณครีบ เหงือก และผิวหนัง อัตราการตายมักเกิดขึ้นรวดเร็วและฉับพลัน มักพบว่าเกิดการสูญเสียของเหลว ภาวะการขาดน้ำ จนกระทั้งเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนตามมา
อาการ
ขั้นแรกอาจยังไม่สังเกตอาการได้เด่นชัด อาจพบเพียงจุดสีขาวเล็ก ๆ จำนวนไม่มาก ต่อมา ในระยะเวลาอันสั้น จะพบอัตราการหายใจของปลาถี่ขึ้นรวดเร็ว เนื่องจากตัวเชื้อได้เข้าทำลายบริเวณเหงือก ทำให้การแลกเปลี่ยนอากาศได้ไม่ดี ต่อมาจะพบรอยโรคเป็นหย่อม ๆ เกิดการขุ่นขาวของผิวหนัง ครีบ และดวงตา มีการสร้างเมือกจำนวนมาก อาจพบการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนตามมา
การรักษา
การควบคุมการระบาดได้ดีที่สุดอันดับแรก คือ การทำ Hyposalinity method และ การรักษาเช่นเดียวกับ การรักษา Cryptocaryon irritans ที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ภาพแสดงความแตกต่างของ marine ich ที่เกิดจากเชื้อที่แตกต่างกัน โดยลักษณะภายนอกจะพบว่า พบจุดสีขาวอยู่บนผิวหนังของปลา Amyloodinium ทำให้เกิดจุดขาวเช่นเดียวกับ Cryptocaryon แต่จุดขาวมีขนาดเล็กกว่าและมีการกระจายตัวทั่วมากกว่า (รูป A และ B) และทำให้เกิดการขัดขวางของระบบหายใจคือเหงือก มีการหายใจถี่ ส่วน Brooklynella จะพบว่าเมื่อติดเชื้อจะเป็นลักษณะแถบ ๆ บริเวณกว้างของแต่ละจุดมากกว่า (รูป C) อาการจะรุนแรงกว่า โดยการรักษาส่วนใหญ่แล้วจะคล้ายคลึงกัน
ที่มา : http://www.peteducation.com/